อบรมการตลาด

คนทีสนใจคอร์สเรียน Digital Marketing ต้องรู้! Google เตรียมบังคับใช้ GA4 กลางปีหน้าจากการอัพเดทของ Google Analytic เมื่อต้นปีนี้ เพื่อเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในปีหน้า เพราะตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 ทาง Google Analytic 3 (Universal Analytics) จะหยุดการประมวลผล Hit ใหม่ๆ (หลังจากนั้นจะยังเข้าถึงข้อมูลใน GA3 ได้อีกอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อ Export ข้อมูลต่างๆออกมา) และในที่สุดหลายๆ สถาบันอบรมการตลาด เชื่อว่าก็น่าจะยุติการเข้าถึงของ GA3 ทำให้ต้องเปลี่ยนไปใช้ Ga4 โดยปริยาย วันนี้ จะมาลองมาดูความแตกต่างเด่นๆที่สำคัญ ที่หลายๆอย่าง พัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาของ GA3 ได้เป็นอย่างดีเลยครับ

1.การเก็บข้อมูลด้วย Event Base ที่ยืดหยุ่น แทนที่ Session Based ที่กระจัดกระจายใน GA3 ได้ออกแบบการเก็บข้อมูลที่อ้างอิง Hit Type หลายๆมิติ เช่น Pageview , Social Interaction , User Timing หรือ Custom Event ต่างๆ ทั้ง Event Category , Event Action , Event Label , Even Value ซึ่งเมื่อเราต้องการนำข้อมูลมาเปรียบเทียบ หรือ มาใช้ตั้งเป็น Conversion (Goal) ก็อาจจะมีขั้นตอนที่ซับซ้อน และ ยากต่อการใช้งาน

ออกแบบการเก็บข้อมูลแบบใหม่ โดยใช้ Event Base เป็นหลัก ซึ่งจะมองทุกๆอย่างเป็น Event เช่น page_view , session_start , first_visit , click , scroll , user_engagement และ อื่นๆ โดยหลายๆ Event พื้นฐานสำคัญ ก็ได้สร้างให้เราได้ใช้งานในการอ่านค่าแบบอัตโนมัติตั้งแต่แรกเลยและที่สะดวกที่สุดคือ มีระบบที่สามารถเลือก Mark Event ที่เรามองว่าสำคัญไปเป็น Conversion ได้ทันที โดยไม่ต้อง Set up อะไรเพิ่มเติม ทำให้สะดวกขึ้นมากๆและนอกจากนี้ยังทำให้ระบบ Machine Learning สามารถช่วยเอาข้อมูลไปวิเคราะห์และแสดงข้อมูล Insights ออกมาให้เราได้ดีขึ้นอีกด้วย

2.ยกเลิก Bounce Rate แต่เปลี่ยนมุมมองเป็น Engagement แทน

ใน GA3 คนที่เคยใช้งาน น่าจะคุ้นๆกับ Bounce Rate ที่จะเอาไว้ดูอัตราการออกจากหน้าเว็บของ Visitor แต่ด้วยเงื่อนไขที่ซับซ้อน และ ไม่เอื้อต่อเว็บไซต์บางประเภท เช่น Sales Page , One Page Website ที่อาจจะมีเว็บเพียงหน้าเดียว ทำให้ค่า Bounce Rate นี้มีประโยชน์ในการวิเคราะห์น้อยลงแต่ GA4 ได้ยกเลิก Bounce Rate ออกไป และเพิ่มมุมมองใหม่มาให้ที่เรียกว่า Engaged Session ซึ่งประกอบด้วย การเปิดหน้าเว็บไซต์นานกว่า 10 วินาที , มี Pageview ตั้งแต่ 2 ขึ้นไป และที่พิเศษคือ นับเมื่อมี Conversion Event เกิดขึ้น ทำให้เราสามารถ Custom คำจำกัดความของ Engaged Session ได้ตาม Objective ของเว็บเราได้เลย และเวลาอ่าน Report เราก็จะสามารถเทียบ Engagement Rate จากข้อมูลต่างๆได้แบบที่เหมาะสมกับเว็บเรามากที่สุดนั่นเองNOTE : Engagement Rate คำนวณจาก (Engaged Sessions) / (Total Sessions).

3.การเก็บข้อมูลที่ Smooth มากขึ้นทั้ง Website และ Appใน GA3 การเก็บข้อมูลของ Web และ App จะแยกกันคนละ Property ทำให้ยากต่อการมองภาพรวมของ Journey ลูกค้าแต่สำหรับ G A 4 ได้รวมข้อมูลนั้นไว้ด้วยกัน และมอง User เป็นคนๆเดียวกันได้ทั้ง Journey ไม่ว่าลูกค้าจะเกิด Conversion ที่จุดไหนก็จะทำให้เราสามารถวิเคราะห์ และ Optimize Media ของเราได้ดีขึ้นมากๆครับยังมีอีกหลายข้อที่ G A 4 พัฒนาให้ดีขึ้นจาก GA3 หากแบรนด์ต่างๆที่ใช้งานเว็บไซต์กันอยู่แล้ว ควรเริ่มศึกษาฟังก์ชั่นต่างๆของ GA4 หรือแนะนำว่าควรติดตั้งเพื่อเก็บข้อมูล Pararell กันไปกับ GA3 เลย เพื่อให้การเก็บข้อมูลมีความต่อเนื่อง และ เปลี่ยนไปใช้งานได้ในอนาคตได้ทันทีเมื่อถูกบังคับใช้งานครับ

———————————-

📌สำหรับใครที่สนใจคอร์สเรียน Digital Marketing อบรมการตลาด เพื่อเพิ่มยอดขายผ่านหน้าเว็บไซต์ ยิงแอดครบทุกPlatform พร้อมทั้งการวิเคราะห์ Conversion ด้วย data analytics ทั้งรูปแบบคอร์สเรียนออนไลน์, คอร์สเรียนแบบส่วนตัว หรือ In-House Training สามารถสอบถามข้อมูลกับ Right Lane Academy ได้ที่

👇🏻 โทร : +66 (0)62-559-5294 K.Por (Admin Rightlane)

Line : @rightlane

Facebook : https://www.facebook.com/RightLaneAcademy

#Rightlane #คอร์สเรียน digital marketing #GA4 #performancemarketing #googleanalytics4 #data analytics #อบรมการตลาด

———————————-

📌สำหรับใครที่สนใจคอร์สเรียน Digital Marketing อบรมการตลาด เพื่อเพิ่มยอดขายผ่านหน้าเว็บไซต์ ยิงแอดครบทุกPlatform พร้อมทั้งการวิเคราะห์ Conversion ด้วย data analytics ทั้งรูปแบบคอร์สเรียนออนไลน์, คอร์สเรียนแบบส่วนตัว หรือ In-House Training สามารถสอบถามข้อมูลกับ Right Lane Academy ได้ที่

👇🏻 โทร : +66 (0)62-559-5294 K.Por (Admin Rightlane)

Line : @rightlane

Facebook : https://www.facebook.com/RightLaneAcademy

#Rightlane #คอร์สเรียน digital marketing #GA4 #performancemarketing #googleanalytics4 #data analytics #อบรมการตลาด

ชญานิศ จิตรีปลื้ม

ชญานิศ จิตรีปลื้ม (นิก)

อาจารย์ Rightlane Academy

ประวัติวิทยากร

นายชญานิศ จิตรีปลื้ม (นิก) ที่ปรึกษาด้าน digital Strategy และ Performance Marketing มามากกว่า 10 ปี อาจารย์พิเศษด้านการตลาด ให้กับมหาวิทยาลัย ชั้นนำ อาทิ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

(Digital Marketing Strategy ) ประสบการณ์วางแผนกลยุทธ์ทางด้าน Digital Marketing โดยเฉพาะ Online Platform ยอดนิยม เช่น Facebook ads , Google ads , SEO , Tiktok , Line , Youtube , Marketplace Ads มากกว่า 500+ Campaign

(Digital Media Tools ) ประสบการณ์ด้าน Consult เทคนิคเชิงลึกสำหรับ Digital Media Tools เพื่อให้ทุกงบการลงทุนโฆษณาคุ้มค่ามากที่สุด อาทิเช่น การเพิ่ม Conversion ให้ธุรกิจ , เทคนิค ทำอย่างไรให้ CPA ราคาถูกลง , มีคนทักเยอะ ไม่มีคุณภาพ ปิดการขายไม่ได้ , สินค้าเสี่ยง Policy พร้อมเทคนิคการยิงแอดยังไงให้โดย Reject